ทำไมพ่อมดจึงไม่ล้าหลังคนออร์โธดอกซ์ Signs of a Witch: 11 สัญญาณว่าแม่มดผู้แข็งแกร่งอยู่ตรงหน้าคุณ

อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิตเราแต่ละคนเคยสงสัยว่า: จะรู้จักหมอผีในหมู่ผู้คนได้อย่างไร? หากคุณเชื่อตำนานและความเชื่อพื้นบ้าน ผู้หญิงที่มีตาสีดำหรือสีเขียว และผมสีแดง มักจะถูกมองว่าเป็นแม่มด ตามกฎแล้วพวกเขาโดดเด่นด้วยความงามที่แปลกตาบางประการ บางครั้งผู้คนสังเกตเห็นประกายในดวงตาของพวกเขา หรือคิ้วโค้งเป็นโค้งที่สวยงาม หรือริมฝีปากของพวกเขาขดเป็นรอยยิ้ม ไม่ว่าในกรณีใด รูปร่างหน้าตาของพวกเขาทั้งน่าหลงใหลและหวาดกลัว

วิธีการรับรู้หมอผีในหมู่ผู้คน

ดูว่า A. Kuprin บรรยายถึง Olesya แม่มดชาวโปแลนด์อย่างไร

“ความงามดั้งเดิมของใบหน้าของเธอที่ไม่อาจลืมเลือนได้ แต่เป็นเรื่องยากแม้จะคุ้นเคยกับมันแล้วก็ตาม เสน่ห์ของมันอยู่ที่ดวงตาสีเข้มแวววาวขนาดใหญ่ซึ่งมีคิ้วบางหักเข้า ตรงกลางให้เฉดสีที่เจ้าเล่ห์พลังและความไร้เดียงสาที่เข้าใจยาก "ในโทนสีชมพูเข้มของผิวในโค้งของริมฝีปากโดยเจตนาซึ่งด้านล่างค่อนข้างเต็มอิ่มยื่นออกมาข้างหน้าด้วยรูปลักษณ์ที่เด็ดขาดและไม่แน่นอน "

ในรัสเซีย ดวงตาสีดำถือเป็นปีศาจเนื่องจากสีตานี้ค่อนข้างหายาก ด้วยเหตุผลเดียวกัน ในทางตะวันออก บุคคลที่มีตาสีฟ้าก็ถือเป็นหมอผี ชาวเยอรมันยังคงกลัวผู้หญิงโสด - พวกเขาสามารถจับตาดูลูก ๆ ของคนอื่นได้ สาวใช้ที่มีกระจกตาสีแดงนั้นน่ากลัวเป็นพิเศษ - ความปรารถนาที่ไม่บรรลุผลของเธอสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานด้านลบของพลังทำลายล้างได้ มีสัญญาณที่คล้ายกันในอิตาลี พวกเขาระวังผู้หญิงที่เป็นหมันที่มีตาสีฟ้า

วิธีจดจำหมอผี: บ้านของเขา

ตามตำนาน หมอผีอาศัยอยู่แยกกันในปราสาทบางแห่ง หายไปในป่าอันมืดมิด เชื่อกันว่าป่าไม่เพียงแต่ปกป้องเขาจากการสอดรู้สอดเห็นเท่านั้น แต่ยังให้อาหารเขาด้วยพลังของมันอีกด้วย ช่วยให้นักเวทย์มนตร์ได้ผ่อนคลายเป็นครั้งคราวและผสานเข้ากับธรรมชาติ

ในบ้านของพ่อมด คุณอาจจะได้พบกับแมวดำหรืออีกาดำ ที่มุมหนึ่งของบ้านปราสาทจะมีใยแมงมุมที่มีแมงมุมตัวอ้วนใหญ่อยู่อย่างแน่นอน และนี่ไม่ใช่เลยเพราะหมอผีไม่ดูแลความสะอาดของบ้าน เพียงแต่ว่าแมลง ค้างคาว แมวดำ อีกา และวิญญาณชั่วร้ายอื่นๆ เป็นส่วนสำคัญของสภาพแวดล้อมที่มีเวทมนตร์

สวนรอบๆ ปราสาทของพ่อมดนั้นเต็มไปด้วยพืชที่ได้รับการคุ้มครอง มอส และไลเคน ซึ่งมีเพียงพ่อมดเท่านั้นที่รู้จุดประสงค์นี้ รากและดอกของพืชเหล่านี้สามารถฆ่าคนหรือทำให้เขาฟื้นคืนชีวิตได้ จากนั้นนักเวทย์มนตร์ก็เตรียมยาวิเศษ ขี้ผึ้งวิเศษ น้ำมัน ธูป และแน่นอนว่าเป็นเครื่องดื่มแห่งความรัก กลิ่นดอกไม้แปลก ๆ อบอวลไปทั่วสวน จำเป็นต่อการเรียกวิญญาณชั่วร้าย

น้ำหอมแต่ละชนิดก็ชอบกลิ่นของตัวเอง เสจ, โรสแมรี่, ลาเวนเดอร์, ไธม์, ไมร์เทิล, สายน้ำผึ้ง, เฮนเบน, ลำโพง - แล้วแต่คุณชอบ บ้านเต็มไปด้วยธูปและธูปซึ่งหมอผีเผาเพื่อเป็นเกียรติแก่พลังที่สูงกว่า กลิ่นหอมของพวกเขาช่วยให้นักเวทย์มนตร์หลีกหนีจากปัญหาทางโลกและเปลี่ยนไปสู่อารมณ์พิเศษ

บ้านของหมอผีเต็มไปด้วยวัตถุและสัญลักษณ์วิเศษ โดยที่พิธีกรรมคาถาไม่เสร็จสมบูรณ์: พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง มีดและชาม รูปดาวห้าแฉก ดวงดาวของเดวิด เทียน กระจก - ทั้งหมดนี้เป็นผู้ช่วยของนักมายากล เขาถูกรายล้อมไปด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้งานของเขาง่ายขึ้น มีสมาธิ และสะสมพลังงาน นอกจากนี้ยังใช้กับเสื้อผ้าด้วย - หมอผีสวมเฉพาะวัสดุจากธรรมชาติเท่านั้น

ตามกฎแล้วปอมปอมและพู่ทั้งหมดบนหมวกยาวที่ตกแต่งเสื้อคลุมของพ่อมดในเทพนิยายและบนเวทีละครถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ของนักเขียน รายละเอียดที่งดงามทั้งหมดนี้เพียงแต่จะหันเหความสนใจของนักมายากลไปจากการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น และจะไม่อนุญาตให้เขามุ่งความสนใจไปที่กระบวนการทำนาย

มีดพิธีกรรมของหมอผีมีไว้สำหรับหลอกหลอนเหยื่อด้วยเลือดที่เขาพยายามเอาใจวิญญาณและปีศาจ ด้ามมีดประดับด้วยเพชรพลอย ใบมีดมีความคมมาก แต่นอกเหนือจากการกระทำนองเลือดแล้ว นักเวทย์มนตร์ยังใช้มีดเพื่อกิจกรรมสงบสุขเช่นเพื่อจารึกสัญลักษณ์เวทย์มนตร์สัญลักษณ์และอักษรรูน หากไม่มีมีดพิธีกรรม ไม่มีหมอผีผู้เคารพตนเองคนใดที่จะเริ่มกระบวนการทำนายที่แท้จริง ไม่ว่าพลังงานของเขาจะมุ่งไปในทางใดก็ตาม - เพื่อการทำความดีหรือเพื่อการกระทำสีดำ

นี่คือถ้วยที่เขารินเหล้าองุ่นหรือน้ำลงไป เมื่อมองอย่างใกล้ชิด คุณจะเห็นอนาคตและอดีตของคุณที่จุดต่ำสุด และมองเข้าไปในชีวิตของบุคคลอื่น บ่อยครั้งที่หมอผีเก็บเลือดของเหยื่อในถ้วยนี้ (ในสมัยของเราโชคไม่ดีที่ธรรมเนียมอันนองเลือดดังกล่าวได้รับการเก็บรักษาไว้ในบางนิกาย) จากนั้นเลือดจะถูกเจือจางด้วยส่วนประกอบอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดการรักษาเวทย์มนตร์ที่ทรงพลัง

เป็นไปไม่ได้ที่นักเวทย์มนตร์จะทำโดยไม่มีลูกบอลคริสตัล ซึ่งแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกที่ในโลก ช่วยให้นักเวทย์มนตร์มีสมาธิ ดื่มด่ำไปกับโลกแห่งอดีต หรือมองไปสู่อนาคต การเลือกลูกบอลดังกล่าวเป็นทักษะพิเศษ มีเพียงผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงในสาขาของเขาเท่านั้นที่สามารถทำได้

คุณต้องจำรูปร่างของหินความโปร่งใสและขนาดของมันนอกจากนี้ควรติดตั้งในลักษณะเพื่อให้ได้แสงที่ถูกต้อง และในคลังแสงของนักมายากลที่แท้จริงนั้นมีไม้กายสิทธิ์, ริบบิ้น, หม้อน้ำ, แหวน, ดินสุสาน, ผม, เลือดของศัตรู - ทุกอย่างจะมีประโยชน์ แน่นอนว่าหากทั้งหมดนี้ได้รับการจัดการอย่างเชี่ยวชาญและเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้

รายการทั้งหมดเหล่านี้ยังคงมีความเกี่ยวข้องแม้ว่าเราจะไม่ได้อาศัยอยู่ในยุคกลาง แต่อยู่ในศตวรรษที่ 21 ก็ตาม พ่อมดยุคใหม่ก็ต้องการพวกมันเช่นกัน บางครั้งคุณจะพบกับสินค้าทำมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งทำโดยนักมายากลเองหรือตามคำสั่งพิเศษ

แต่อาจมีวัตถุธรรมดาที่สุดเช่นกัน: ชามและมีดซึ่งมีการใช้สัญลักษณ์เวทย์มนตร์ซึ่งใช้เพื่อจุดประสงค์ในพิธีกรรมเท่านั้น คุณไม่สามารถดื่มจากถ้วยที่ใช้ในพิธีกรรมได้ ในบ้านของพ่อมด คุณอาจไม่ใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้ด้วยซ้ำ - สิ่งของอาจเรียบง่ายมาก เพียงจุดประสงค์ในการใช้งานเท่านั้นที่ทำให้มันผิดปกติ

ปัจจุบันนักมายากลไม่จำเป็นต้องเตรียมยา ปลูก และรวบรวมสมุนไพรวิเศษด้วยตนเอง สิ่งที่จำเป็นสำหรับคาถาสามารถหาซื้อได้ในร้าน แต่บ่อยครั้งแม้แต่ในเวทมนตร์สมัยใหม่พวกเขาก็ใช้สิ่งพิเศษที่เราคุ้นเคยในการอ่านนิทาน จากนั้นนักมายากลก็ต้องทำงานหนัก - เพื่อค้นหา เช่น ขี้กบจากโลงศพ หวีที่ใช้หวีผู้ตาย หรือใยแมงมุมในป่า คุณเองจะต้องทำให้กบแห้งเอาก้อนหินจากท้องของสัตว์และขาแมงมุม

เราต้องการเตือนคุณ: คุณต้องระมัดระวังในการทำวัตถุพิธีกรรม ข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิตอันศักดิ์สิทธิ์สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดในระหว่างพิธีกรรมได้

กิจกรรมของนักเวทย์มนตร์ถูกเปิดใช้งานในความมืด ในตอนกลางคืนมีพิธีกรรมและคาถาที่น่ากลัวและทรงพลังที่สุด ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว พระจันทร์เต็มดวง ความเงียบ - ถึงเวลาแห่งเวทมนตร์แล้ว

จะรู้จักหมอผีได้อย่างไร: เขากลัวอะไร?

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่นักเวทย์มนตร์ส่วนใหญ่กลัวสัญลักษณ์แห่งไม้กางเขน น้ำมนต์ น้ำมันศักดิ์สิทธิ์ และพระกายของพระคริสต์ ทั้งพ่อมดแม่มดและนักมายากลไม่เคยไปโบสถ์ นี่คือจุดเด่นของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

กลางคืนยังคงเป็นช่วงเวลายอดนิยมสำหรับคาถา เมื่อประชาชนทั่วไปเข้านอน นักมายากลสามารถทำพิธีกรรมได้อย่างเงียบๆ และสันโดษ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะแปลกใจ มีคำเตือนอันเลวร้ายมากมายเกี่ยวกับผลที่ตามมาจากการขัดจังหวะพิธีกรรม และนั่นคือสาเหตุที่นักมายากลยังคงมองหาสถานที่อันเงียบสงบเพื่อทำการแสดง

วิธีจดจำหมอผี: ความสามารถของเขา

ผู้คนต่างยกย่องความสามารถอันน่าทึ่งที่หลากหลายที่สุดให้กับพ่อมด: พวกเขาสามารถกลายร่างเป็นสัตว์อะไรก็ได้และแอบเข้าไปในบ้านของใครบางคนโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นและหายไป มองไม่เห็น; สามารถขยายพื้นที่และเวลาได้ ว่ากันว่าแม่มดสามารถอยู่บ้านบนเตียงและเข้าร่วมในวันสะบาโตได้พร้อมๆ กัน หมอผีเข้าใจภาษาของสัตว์และนก รวมถึงภาษาของมนุษย์ด้วย

คำพูดของนักมายากลไม่ใช่แค่เสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ ภาพทางจิต การเชื่อมโยงที่เชื่อมโยงจิตวิญญาณและความตั้งใจทางกายภาพของเขาเข้าด้วยกัน คาถามีจังหวะและออกเสียงในระดับหนึ่ง หลายแห่งได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จากคุณย่าถึงหลานสาว และสืบทอดประสบการณ์และประเพณีที่มีมายาวนานหลายศตวรรษ แต่คุณได้รับอนุญาตให้ประดิษฐ์คาถาด้วยตัวเองซึ่งไม่ได้ทำให้คุณค่าหรือประสิทธิผลลดลง สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎการร่ายทั้งหมด

วิธีจดจำหมอผี: ความตายของเขา

มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมากเกี่ยวกับอายุขัยของพ่อมด บางคนคิดว่าหมอผีมีชีวิตอยู่จนแก่เฒ่า ประการแรก ต้องขอบคุณความสามารถในการรักษาตัวเองของมัน ประการที่สอง พวกเขาสามารถดูดพลังชีวิตของผู้อื่นได้ และแน่นอนว่าวิญญาณและปีศาจช่วยให้พวกเขามีอายุยืนยาวขึ้น บางทีหมอผีอาจรู้ความลับของความเป็นอมตะด้วยซ้ำ!

คนอื่นบอกว่าหมอผีถึงวาระที่จะตายอย่างรวดเร็วเนื่องจากส่งความชั่วร้ายไปให้ผู้อื่นเขาได้รับมันกลับคืนมา แต่มีพลังสองเท่า ความชั่วร้ายเผาผลาญหมอผี ยิ่งความปรารถนาที่จะทำร้ายรุนแรงขึ้นเท่าใด การนัดหยุดงานตอบโต้ก็จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเท่านั้น

พ่อมดอาจตายในการต่อสู้กับพ่อมดจากโลกคู่ขนาน ปีศาจ ผีที่เข้ามาในโลกของเราเพื่อตอบสนองต่อเสียงเรียกของเขา

หลังความตาย หมอผีจะต้องถูกฝังโดยการแทงเสาแอสเพนเข้าไปในหัวใจ มิฉะนั้นวิญญาณของเขาจะไม่พักผ่อนและจะรบกวนผู้คนในเวลากลางคืน คริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ต้องการการเผา ไฟแห่งการสืบสวนลุกลามไปทั่วยุโรป

มีอคติและความเชื่อมากมายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของนักเวทย์มนตร์ วิถีชีวิตของเขา และความสามารถด้านเวทย์มนตร์ แต่ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าตำนาน

วิธีจดจำพ่อมดยุคใหม่

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำหมอผียุคใหม่ได้ หากคุณยังคงคิดว่านี่คือฤาษีที่มีดวงตาที่เร่าร้อน จมูกโด่ง ห้อยพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง แสดงว่าคุณล้าหลังไปแล้ว เขาดูเหมือนคนธรรมดาที่สุด: หล่อ, เป็นกันเอง บางทีอาจเป็นชีวิตของงานปาร์ตี้ซึ่งทำให้เขาได้รับการปกป้องเป็นพิเศษจากการยอมรับ

คุณจะจำพ่อมดได้ทันเวลาเพื่อป้องกันตัวเองได้อย่างไร? การชนกับหมอผีจะเป็นอันตรายได้อย่างไร? ผลที่ตามมาที่เป็นไปได้คืออะไร?

พิธีกรรมเวทย์มนตร์ใด ๆ เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานจำนวนมหาศาล พวกเขาต้องการสมาธิและการระดมกำลังอย่างมาก พลังงานเป็นหมวดหมู่หลักของเวทมนตร์ ด้วยความช่วยเหลือที่พ่อมดรักษาผู้คนและส่งโรคติดต่อสื่อสารกับโลกอื่นและส่งความคิดในระยะไกล นักมายากลจำเป็นต้องเติมพลังงานอย่างต่อเนื่องเพื่อดำเนินการตามแผน

สิ่งต่างๆ มากมายสามารถใช้เป็นแหล่งที่มาของการเติมพลังได้ เช่น ธรรมชาติที่มีชีวิตและที่ตายแล้ว พลังงานของผู้อื่น พลังงานในอวกาศ โลก ดวงอาทิตย์ ดวงดาว แต่ถึงกระนั้น พลังงานของมนุษย์ก็เป็นเหยื่อที่ง่ายที่สุด พลังงานที่เกิดขึ้นจะถูกจัดเก็บและเสริมความแข็งแกร่งโดยหมอผีด้วยความช่วยเหลือของเครื่องรางของขลัง พระเครื่อง กระจก เทียนและวัตถุวิเศษอื่น ๆ

จะรู้จักหมอผีได้อย่างไร: คาถาคืออะไร

คาถาคือการส่งพลังงานที่มุ่งตอบสนองความปรารถนาของนักมายากล จุดประสงค์ของเวทมนตร์อาจแตกต่างกัน: ความมั่งคั่ง ความรัก การรักษาหรือโชคร้าย ความเศร้าโศก และความเจ็บป่วย พลังงานจะเปลี่ยนเป็นบวกหรือลบตามความต้องการของหมอผี

โดยทั่วไปแล้ว นักมายากลจะพยายามไม่ก่อให้เกิดอันตรายโดยเจตนา พวกเขารู้ดีกว่าใครๆ ว่าข้อความใด ๆ ก็ตามกลับมาด้วยกำลังสองเท่าหรือสามเท่า การลงโทษนั้นจะเกิดขึ้นสำหรับความชั่วที่ทำ หมอผีผิวขาวพยายามเพิ่มพลังให้กับบุคคล รักษา และปกป้อง เขามักจะรับเอาโรคร้ายมาสู่ตัวเอง และช่วยให้บุคคลนั้นพ้นจากโรคนั้น

ในทางกลับกันพ่อมดดำกลับใช้พลังงาน สร้างการเชื่อมต่อที่แน่นแฟ้นกับเหยื่อและเชื่อมต่อกับสนามพลังงาน นี่เป็นเหมือนช่องทางที่พลังงานไหลจากบุคคลไปยังจอมเวทย์ในเวลาใดก็ได้และในปริมาณเท่าใดก็ได้ นักเวทย์มนตร์เป็นอะไรที่มากกว่าแวมไพร์พลังงานแม้ว่าในชีวิตของเราสิ่งหลังสามารถก่อให้เกิดอันตรายได้มากจนไม่จำเป็นต้องใช้เวทมนตร์ก็ตาม

โดยทั่วไปแล้ว พ่อมดคือบุคคลที่มีโลกทัศน์ วิถีชีวิต ค่านิยม และแบบจำลองของโลกที่แตกต่างกันออกไป เกือบทุกอย่างในชีวิตของนักเวทย์มนตร์ได้รับการอธิบายด้วยความช่วยเหลือของเวทมนตร์ คาถา และพลังที่สูงกว่า ชีวิตของเขาเกิดขึ้นในอีกมิติหนึ่ง คนที่ไม่ได้ฝึกหัดไม่สามารถต่อสู้กับมันได้ มีเพียงผู้ประทับจิตซึ่งมีความแข็งแกร่งเท่ากันเท่านั้นที่สามารถรับมือกับนักมายากลได้

เราได้พูดคุยกับคุณเกี่ยวกับผู้คนที่ควบคุมการรับและการปล่อยพลังงานอย่างมีสติโดยเฉพาะ แต่ในชีวิตประจำวัน การสูญเสียมักเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน นี่เป็นเพราะอิทธิพลของจิตใต้สำนึกและไม่ตั้งใจที่รอเราอยู่ในการสื่อสารกับผู้อื่น ความโกรธ ความเกลียด ความริษยา ความริษยา นำไปสู่ผลที่ตามมาอย่างถาวร: ความเสียหาย นัยน์ตาปีศาจ และยิ่งความรู้สึกเหล่านี้แข็งแกร่งขึ้นเท่าไร ยิ่งทุ่มเทพลังงานให้กับมันมากเท่าไร มันก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

วิธีรับรู้จอมเวทย์ด้วยความรู้สึกในการสื่อสาร

บ่อยครั้งมีผู้ที่มีความผิดปกติของการเผาผลาญพลังงานและทุกข์ทรมานจากการขาดพลังงาน โดยปกติแล้วบุคคลดังกล่าวจะพยายามสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีพลังงานสำรองมาก เขาพยายามตามทันทุกสิ่ง อยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ติดต่อสื่อสารกันมากมาย ซึ่งทำให้เขามีโอกาสที่จะได้รับพลังงานจากผู้อื่น

คุณยังสามารถรู้สึกผูกพันทางอารมณ์กับแวมไพร์ได้ เพราะเขาพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับความยากลำบากของคุณ ให้คำแนะนำ และให้การสนับสนุนที่จำเป็น แวมไพร์จับมือคุณแล้วมองตาคุณ คุณไม่สงสัยด้วยซ้ำว่าคุณกำลังมอบพลังชีวิตให้กับคำพูดและอารมณ์ของคุณ แต่เราจะพูดถึงแวมไพร์ในบทที่แยกจากกัน

เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงการปรากฏตัวของหมอผีที่ดีเพราะนอกจากนักเวทย์มนตร์ดำแล้วยังมีคนผิวขาวอีกด้วย นอกจากนี้ หากคุณได้รับความเสียหาย คุณอาจต้องได้รับความช่วยเหลือที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

ผู้รักษาตัวจริงดูดี: เขามีผิวธรรมดา ดวงตาเป็นประกาย ผิวสุขภาพดีไม่มีแผลและสิว อารมณ์ดีอยู่เสมอและเดินง่าย นักเวทย์มนตร์ที่ดีจะดูอ่อนกว่าวัย ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะกำหนดอายุของพวกเขา เสียงของพวกเขายังเยาว์วัยและชัดเจน พวกเขาไม่ได้ถามคุณว่าคุณมาด้วยอะไร แต่พวกเขาพูดถึงปัญหาและความเจ็บป่วยของคุณเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตของคุณ

พวกเขาจะไม่ปฏิบัติต่อคุณ แต่จะช่วยให้คุณเอาชนะโรคได้ด้วยตัวเอง เมื่อเลือกพ่อมดให้ฟังตัวเอง: คุณชอบคนนี้ไหม คุณเชื่อใจเขาไหม คุณชอบเขาไหม และถ้าเป็นเช่นนั้น จงตั้งใจฟังคำแนะนำทั้งหมดของเขาให้ดี เพราะเขาไม่เคยเสียคำพูดเลย

การสื่อสารกับนักเวทย์มนตร์ที่ดีไม่เพียงแต่จะรักษาคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณกำจัดนิสัยที่ไม่ดี เสริมสร้างความสามารถทางปัญญา คืนความสงบของจิตใจ และขยายความคิดของคุณเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาล คุณจะได้เรียนรู้ความรักที่แท้จริง ได้รับความคิดที่ดีและบริสุทธิ์ เต็มไปด้วยพลังที่สดใส และชำระล้างสิ่งเลวร้ายทั้งหมดที่สะสมอยู่ในตัวคุณ

หากคุณได้ลองคุณจะได้รับความรู้ที่สำคัญมากมายซึ่งจะเป็นประโยชน์ตลอดชีวิตของคุณ หลังการรักษา เราขอแนะนำให้คุณใส่ใจกับสิ่งรอบตัว เพื่อนของคุณคนไหนเริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติอย่างกะทันหัน: เรียกร้องการสื่อสารอย่างแข็งขัน, ให้หรือขอบางสิ่งบางอย่าง, สัมผัสคุณ เป็นไปได้มากว่านี่คือคนที่กินพลังงานของคุณ การสื่อสารกับเขาเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาสำหรับคุณ จงอยู่ห่างจากเขา

จะจดจำหมอผีได้อย่างไร: เวทมนตร์ถูกตำหนิอยู่เสมอหรือไม่?

อย่างไรก็ตามเราไม่ควรพูดเกินจริง หากคุณป่วย ทุกอย่างหลุดมือ คุณไม่สามารถหาทางออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ นี่ไม่ใช่งานของพ่อมดและแวมไพร์พลังงาน คุณไม่ควรคิดว่าหากข้อตกลงล้มเหลว ข้อตกลงนั้นก็จะเสียหาย และการล้มเหลวกับคนที่คุณรักและครอบครัวถือเป็นคำสาปของครอบครัว

บางทีมันอาจจะเกี่ยวกับคุณ? ชะตากรรมของเราอยู่ในมือของเรา แต่ถ้าคุณรู้แน่ว่าคาถาไม่สามารถเกิดขึ้นที่นี่ได้ก็ให้วิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงผลรวมของสัญญาณและสัญญาณทั้งหมดโดยแยกสาเหตุธรรมดาออกจากสาเหตุที่เกิดจากเวทมนตร์โดยอาศัยจิตใจเป็นหลักไม่ใช่ ความรู้สึก

เนื้อหานี้เป็นของเว็บไซต์ Meridian ห้ามพิมพ์ซ้ำหรือคัดลอกบทความในรูปแบบใดๆ โดยเด็ดขาด

ยุคสมัยกำลังเปลี่ยนแปลง เสื้อคลุมสีดำไหลของพ่อมดและแม่มด และดวงตาที่แวววาวของปีศาจนั้นอยู่ห่างไกลจากอดีต และตอนนี้พวกเขาไม่ได้อาศัยอยู่ในปราสาทหรือกระท่อมในป่าอันเงียบสงบ แต่อยู่ข้างๆ เราในสังคมของเรา จะทำอย่างไรถ้ามีหมอผีอยู่ใกล้คุณ? นี้ไม่ดี? อันตราย? ใช่! จะเป็นอย่างไรหากบุคคลดังกล่าวอาศัยอยู่ใกล้กันมาก เช่น ในบ้านของคุณ หรือแม้แต่ในทางเข้าเดียวกันกับคุณ? นี่เป็นความเสี่ยงมากกว่าการนั่งรถรางคันเดียวกันกับหมอผี

หากมีหมอผีอยู่ใกล้คุณ: จะหาได้อย่างไร

จะทราบได้อย่างไรว่ามี “เซอร์ไพรส์” เช่นนี้อยู่ใกล้คุณหรือไม่? หากคุณอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่มาก (ทางเข้า 6-9) คุณควรใส่ใจกับทางเข้าสองทางที่อยู่ทางซ้ายและขวาของคุณ เป็นการดีกว่าที่จะศึกษาบ้านหลังเล็กทั้งหมด โปรดจำไว้ว่าหากการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน การเจ็บป่วยแปลกๆ การหย่าร้างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในบ้านของคุณในช่วงเวลาที่คุณอาศัยอยู่ที่นั่น บางทีคนที่คุณรู้จักที่มาเยี่ยมคุณรู้สึกว่า "ไม่เข้าที่"

ลองตื่นนอนสัก 10-15 นาที ระหว่างตี 2 ถึงตี 4 หลายๆ คืนติดต่อกัน ไปที่หน้าต่างแล้วฟังดูว่ามีแมวร้องอยู่ใกล้ๆ หรือไม่ กรีดร้อง - สังเกตเวลา หากสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ คุณควรระวัง เมื่อเข้าใกล้บ้านของคุณในความมืด ให้ลดสายตาลงที่ระดับชั้นใต้ดิน

หากมีหน้าต่างใดดึงดูดความสนใจ ให้ลองจำไว้ว่าหลังจากผ่านไป 2-3 วันว่าเป็นสิ่งเดียวกันหรือไม่ จากนั้นเลือกเวลาที่แสงจะดับในหน้าต่างนี้แล้วดูหน้าต่างถัดไปสักครู่ แสงพิเศษควรเล็ดลอดออกมาจากหน้าต่าง "แม่มด" - มืดมองไม่เห็น แต่จับต้องได้ ใส่ใจกับความรู้สึก: คุณจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

อาจดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติในอพาร์ทเมนต์ของคุณหรือคุณแค่อยากกลับบ้านจริงๆ หากคุณมีสัญญาณอย่างน้อยสองอย่างข้างต้น เป็นไปได้มากว่าพ่อมดอาศัยอยู่ในบ้านของคุณ และความกลัวของคุณไม่มีมูล

หากหมอผีอยู่ใกล้คุณ: จะระบุตัวตนของเขาได้อย่างไร

วิธีระบุตัวตนของพ่อมดเองได้อธิบายไว้ในบทที่แล้ว ลองมองดูผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ อย่างใกล้ชิดแล้วคุณจะจำเขาได้มากที่สุด

ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามห้ามแสดงมัน หากหมอผีตระหนักว่าคุณจำเขาได้ ปัญหาก็จะไม่ถูกหลีกเลี่ยง ก่อนอื่น พยายามสื่อสารกับเขาให้น้อยที่สุด แต่หากคุณพบกันโดยบังเอิญ อย่าเงียบและอย่าเขินอาย ในทางตรงกันข้าม คุณควรทักทายหรือพยักหน้าอย่างใจเย็นเหมือนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ!

พยายามอย่าสบตา และหากสบตา ให้รีบเบือนหน้าหนี ดวงตาเป็นกระจกแห่งจิตวิญญาณ และไม่จำเป็นต้องให้หมอผีมามองดู หลังจากทักทายแล้ว ให้เดินหน้าต่อไป แต่เพื่อไม่ให้เส้นทางของคุณข้าม หรือหากข้ามก็ให้อยู่ด้านหลังเท่านั้น

กฎอีกข้อ: อย่าข้ามเส้นทางของนักเวทย์มนตร์ ปล่อยให้เขาไปตามทางของเขาเอง

และอย่านั่งในลิฟต์กับพ่อมดอย่าขึ้นบันไดข้างเขา ไม่มีประโยชน์ที่จะให้เหตุผลเพิ่มเติมในการสนทนา ภายใต้ข้ออ้างใด ๆ ให้ออกจากลิฟต์หรือออกจากทางเข้าดีกว่า อย่าเพิ่งเงียบ: อย่างน้อยก็ให้คำอธิบายเบื้องต้นแก่การกระทำของคุณ (“โอ้ ภรรยาของฉันกำลังจะมา ขอโทษ” “ฉันลืมซื้อขนมปัง” “ฉันต้องไปรับจดหมาย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะดึงคุณออกไป”) .

หากหมอผีอยู่ใกล้คุณ: ข้อควรระวัง

เมื่อขึ้นบันได พยายามอย่าสัมผัสราวบันไดและอธิบายเรื่องนี้ให้ลูกฟัง เมื่อกลับถึงบ้านคุณต้องล้างมือด้วยน้ำไหลก่อน เพราะน้ำจะชะล้างผลเสียได้ดี และตั้งกฎให้อาบน้ำทุกเย็น

ไปโบสถ์และรับน้ำมนต์ ฉีดสเปรย์น้ำนี้บริเวณธรณีประตูอพาร์ทเมนท์ บันได และขึ้นลงสัปดาห์ละครั้ง คุณควรเริ่มจากมุมแล้วฉีดสเปรย์ส่วนที่เหลือ ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นอย่าลืมอ่าน "พระบิดาของเรา" และในตอนท้าย - "พระแม่มารี"

หากแม่มดสาวอาศัยอยู่ในบ้าน ให้ใช้เข็มถักไม้แล้ววาดเส้นหยัก 3 เส้นตรงหน้าธรณีประตู - ไม่สั้นกว่าทางเข้าประตูของคุณ

ใช้เวลาตรวจสอบมุมประตูและพรม ใช้ไม้กวาดกวาดทรายที่กระจัดกระจายบนพรม ล้างไม้กวาดในน้ำไหล และวางไว้บนระเบียงจนไม้กวาดแห้ง น้ำบนพรมเป็นสัญญาณที่ไม่ดี - ควรทิ้งพรมจะดีกว่า โดยทั่วไปควรใส่ยางไว้ล้างได้ง่ายและคาถาชั่วร้ายจะ "ไหลออกไป" ก้อนขนของสัตว์ แม้แต่ก้อนที่เล็กที่สุดก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ พวกเขาจะต้องถูกเผาในเทียน

และสิ่งที่สำคัญที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้: คุณไม่จำเป็นต้องไปหาหมอดูและโหราศาสตร์ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องรางให้ตัวเองโดยเฉพาะเพื่อปกป้องตัวเองจากหมอผี "ของคุณ" นอกจากนี้คุณไม่ควรใส่เครื่องป้องกันเวทย์มนตร์ใดๆ ไว้ที่บ้านของคุณ หมอผีจะรู้สึกเช่นนี้และน่าจะดำเนินการตอบโต้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งหากคุณได้รับอันตรายแล้ว แน่นอนว่าคุณต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากใครสักคน

ควรสังเกตว่าหากคุณระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเราก็ไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นเพียงเพื่อนบ้านของคุณ ไม่ใช่ศัตรูส่วนตัวของคุณ เป็นอีกเรื่องหนึ่งเมื่อหมอผีอยู่ในสภาพแวดล้อมของคุณนั่นคือเขาเป็นญาติ เราจะพูดถึงเรื่องนี้แยกกัน

หากหมอผีเป็นญาติของคุณ

ญาติจะเจอกันบ่อยหรือน้อยก็ไม่สำคัญ ข้อเท็จจริงของการประชุมส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ พยายามสื่อสารให้น้อยที่สุดและไม่ได้อยู่ในบ้านของคุณ เมื่อพบกัน ให้สนทนาต่อแต่อย่าติดต่อกับหมอผีโดยตรง ลดสายตาลง อย่าให้พวกมันสบตาคุณ หากมีการทะเลาะวิวาทกันในการสนทนา ให้ออกจากห้องไป อย่าทะเลาะกัน นอกจากนี้คุณไม่ควรพูดถึงหมอผีลับหลัง และโดยทั่วไปแล้วอย่าคิดถึงเขาอีก

หากคุณมีนัดเดทที่ญาติๆ หลายคนมารวมตัวกัน อย่าเชิญหมอผีเป็นการส่วนตัว แต่ให้ส่งคำเชิญผ่านใครสักคน อ้างถึงข้อเท็จจริงที่ว่าคุณไม่ได้อยู่ที่บ้านหรือไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ ที่โต๊ะ ให้นั่งแขกให้ใกล้กับประตูหน้ามากที่สุด นี่จะทำให้คุณมีโอกาสรับใช้เขาเป็นครั้งสุดท้าย

ก่อนที่จะวางผ้าปูโต๊ะ บนโต๊ะที่จานของหมอผีจะยืน ให้วาดรูปกางเขนด้วยน้ำมนต์สามครั้ง หลังจากที่แขกออกไปแล้ว ให้ล้างโต๊ะโดยเริ่มจากขอบตรงข้ามแล้วลบไม้กางเขนเป็นลำดับสุดท้าย หลังจากนั้นให้โยนผ้าขี้ริ้วลงถังขยะซึ่งควรจะนำออกไปในเย็นวันนั้น

ตอนนี้เรามาพูดถึงการปกป้องอพาร์ทเมนต์จากญาติและแขกที่ "ไม่สำเร็จ" อุปกรณ์ป้องกันบางชนิดมีราคาไม่ถูก แต่คุณไม่สามารถละเลยเรื่องความปลอดภัยได้ ไม่ว่าในกรณีใดก็ขึ้นอยู่กับคุณ

หากหมอผีอยู่ใกล้คุณ: การคุ้มครองอพาร์ตเมนต์

ดังนั้นบ้านควรมีน้ำมนต์ เทียนในโบสถ์หรือตะเกียง ธูปหอม และช้อนหรือส้อมเงินหลายใบเสมอ หากคุณรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับการมาถึงของหมอผีให้เตรียมอพาร์ตเมนต์ ในตอนเช้า ให้ล้างพื้นแล้วเทน้ำไปที่ไหนสักแห่งข้างนอก โรยน้ำมนต์ทุกมุมโดยเริ่มจากห้องเด็กและในห้องโถง - จากมุม "หน้า" แล้วเคลื่อนไปทางทางออก

ตอนเที่ยง จุดเทียนหน้าไอคอนบ้านของคุณ หากไม่มีไอคอนก็ไม่ต้องกังวลไปจุดเทียนที่หน้าต่างในห้องโถง ทันทีก่อนที่แขกจะมาถึง ให้สูบธูปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้กลิ่นแรงเกินไป: คุณไม่ควรทำให้ผู้มาเยี่ยมระคายเคือง แต่ก็เพียงพอที่จะสร้างความรู้สึกไม่สบายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

วางช้อนส้อมเป็นเลขคี่บนโต๊ะ แม้ว่าแขกจะมาเป็นคู่ก็ตาม คุณจะลบอุปกรณ์หนึ่งเครื่องในภายหลัง อย่าลืมมอบช้อนเงินให้กับสมาชิกในครอบครัวของคุณอย่างน้อยหนึ่งช้อน เป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ทำผิดพลาดและอย่ามอบอุปกรณ์เงินให้กับหมอผี

เหนือประตูหน้า ให้ติดบุชเฮมล็อคทางด้านขวาและเข็มที่มีด้ายสั้นทางด้านซ้าย วิธีนี้จะทำให้ผู้มาเยี่ยมที่ไม่พึงประสงค์มาน้อยลง และเมื่อเข้าไปในบ้านแล้ว เฮมล็อกอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างเห็นได้ชัด

ตอนนี้มีอีกจุดที่สำคัญมาก กระจกเงา. ทุกคนรู้จักพลังมหัศจรรย์ของกระจกมานานแล้ว ดังนั้นในบ้านแน่นอนว่าควรมีกระจกที่มีมุมโค้งมนหรือแม้แต่กระจกทรงกลมจะดีกว่า คุณจะต้องตุนเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยม หรืออะไรก็ตาม ตราบใดที่มุมแหลมคม

ก่อนที่แขกจะมาถึง คุณจะต้องเปลี่ยนกระจกจำนวนสูงสุดเป็นกระจกแบบ "เชิงมุม" พวกเขาจะดึงอารมณ์ที่แขกปล่อยออกมามากขึ้น ช่วงนี้มองตัวเองให้น้อยลง หลังจากที่แขกออกไปแล้ว ให้เปลี่ยนกระจกเป็นกระจกธรรมดาของคุณอย่างรวดเร็ว

และเล็กน้อยเกี่ยวกับการคุ้มครองส่วนบุคคล จะดีมากถ้าคุณสวมครีบอกครอสและไม่ใช้โซ่ แต่ใช้เชือก ไม้กางเขนอื่น ๆ ก็ช่วยได้เช่นกันแม้ว่าจะน้อยกว่า แต่สิ่งสำคัญคือเป็นเงินและซื้อมาจากโบสถ์

หากหมอผีอยู่ใกล้คุณ: ความช่วยเหลือจากธรรมชาติ

ธรรมชาติยังให้การปกป้องอันทรงพลังแก่เราอีกด้วย ดังนั้นควรพยายามเข้าป่าให้บ่อยขึ้น และในตอนเที่ยงให้นอนราบบนพื้นหญ้าโดยให้ศีรษะหันไปทางทิศตะวันออกโดยเหยียดแขนออก หลับตาแล้วมองดวงอาทิตย์ผ่านเปลือกตาของคุณ จากนั้นหาต้นไม้ “ของคุณ” (สำหรับผู้ชายคือต้นโอ๊ก สำหรับผู้หญิงคือต้นเบิร์ช) ลองเข้าใกล้ต้นไม้หลายๆ ต้น

สิ่งที่คุณดึงดูดให้เป็นของคุณ เอนหลังพิงมันแล้วยืนอยู่ที่นั่นสิบนาที ต้นไม้จะรับประจุลบของคุณและให้ประจุบวกแก่คุณ อย่างที่เคยเป็นมา "สาป" ออร่าของคุณ คุณจะรู้สึกถึงมัน หากการเดินป่าไม่ได้ผล ให้หาต้นไม้ในสวนสาธารณะ ต้นไม้ในเมืองนั้นอ่อนแอกว่าต้นไม้ในป่า แต่ก็สามารถช่วยคุณได้เช่นกัน สื่อสารกับพวกเขาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และโดยเฉพาะหลังจากพบกับหมอผี

ดังนั้น คุณได้เรียนรู้วิธีง่ายๆ ในการปกป้องตัวเองและบ้านของคุณจากเวทมนตร์คาถาแล้ว และถ้าหมอผีไม่ได้ทำให้คุณอยู่ในรายชื่อศัตรูส่วนตัวของเขา เป็นไปได้มากว่าเงินทุนเหล่านี้จะเพียงพอสำหรับชีวิตที่เงียบสงบ แต่จะดีกว่าถ้าอยู่ห่างจากนักมายากลและเวทมนตร์คาถาทุกชนิด

เนื้อหานี้เป็นของเว็บไซต์ Meridian ห้ามพิมพ์ซ้ำหรือคัดลอกบทความในรูปแบบใดๆ โดยเด็ดขาด

หากผู้ป่วยหรือมีปัญหารีบไปหาหมอผีและหมอผีเพื่อขอความช่วยเหลือ สิ่งแรกที่คนที่คุณรักควรทำคือเชิญเขามาประเมินความเสี่ยง

จากบทสนทนา:

จะป้องกันตัวเองจากพ่อมดได้อย่างไร?

อธิษฐานถึง Cyprian และ Justina

ฉันได้ยินการสนทนาดังกล่าวมากกว่าหนึ่งครั้ง ใครก็ตามที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากบางสิ่งรู้วิธีช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหาเดียวกัน และนักบุญทั้งสองก็รู้เรื่องนี้ดี หมอผีที่สามารถละทิ้งการทำนายและกลายเป็นนักบวชและจากนั้นก็เป็นผู้พลีชีพเพื่อพระคริสต์ และหญิงคริสเตียนผู้กล้าหาญซึ่งด้วยพลังแห่งศรัทธาและความบริสุทธิ์ของชีวิตของเธอได้ทำลายคาถาแห่งเวทมนตร์ - มีใครอีกนอกจากพวกเขาที่จะหันไปขอความช่วยเหลือจากการอธิษฐานเพื่อปกป้องตัวเองจากเวทมนตร์คาถาและอุบายของปีศาจ?

ไซเปรียน และจัสตินา

พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองอันทิโอกในศตวรรษที่ 3 Cyprian เป็นพ่อมดผู้ทรงพลัง ดังที่กล่าวไว้ในชีวิตว่า "มอบตัวเขาเองทั้งหมดให้อยู่ในอำนาจของมาร" ครั้งหนึ่ง ตามคำร้องขอของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งหลงรักสาวคริสเตียนชื่อจัสตินา เขาพยายามโดยใช้ "มนต์สะกดแห่งความรัก" เพื่อบังคับให้เธอตอบสนองต่อความหลงใหลของผู้ชื่นชมเธอ “มนต์รัก” ไม่ได้ผล จัสตินามีศรัทธาที่บริสุทธิ์และมั่นคงมากจนคนชั่วร้ายหาทางเข้าใกล้เธอไม่ได้

หมอผี Cyprian ตัดสินใจแก้แค้นหญิงสาวสำหรับความล้มเหลวของเขา: เขาส่งโรคระบาดและโรคระบาดไปที่บ้านของ Justina และทั่วทั้งเมืองด้วย เธอยังคงอธิษฐานต่อไป และความหลงใหลของปีศาจก็หยุดลง ด้วยพลังอันไม่อาจเข้าใจได้ของเด็กสาวผู้ได้เปิดเผย "ความลับ" ของโลกที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก Cyprian จึงละทิ้งปีศาจและกลายเป็นคริสเตียน

หนึ่งปีหลังจากรับบัพติศมา เขาได้รับแต่งตั้งเป็นพระสงฆ์ และในไม่ช้าก็กลายเป็นอธิการ ซึ่งหลายคนนับถือในฐานะนักบุญ บิชอป Cyprian ตั้ง Justina เป็นมัคนายก จากนั้นมอบหมายให้เธอดูแลแม่ชี แต่งตั้งให้เธอเป็นอธิการ

ระหว่างการข่มเหงคริสเตียนภายใต้จักรพรรดิ Diocletian Cyprian และ Justina ทนทุกข์ทรมานจากการทรมาน ระลึกถึงนักบุญ - 15 ตุลาคม

เกี่ยวกับอันตรายของพลังจิตและหมอผีของ "เวทมนตร์ขาวและดำ" จะทำอย่างไรถ้าคนที่คุณรักถูก "การรักษา" พาไปหรือรูปถ่ายของคุณถูกถ่ายโดยญาติผู้ใจดี แต่ไร้ยางอาย "กับผู้รักษา" เจ้าอาวาสกล่าว Nektary (Morozov) ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับพ่อมด "Walking in Darkness" อธิการบดีของโบสถ์ Peter and Paul ใน Saratov หัวหน้าแผนกข้อมูลและการพิมพ์ของสังฆมณฑล Saratov

พ่อมดหรือคนโกง?

- พ่อ Nektary พ่อมดมีอยู่จริงหรือว่าพวกเขาเป็นคนหลอกลวงทั้งหมด?

เรารู้จากหนังสือกิจการของอัครสาวกด้วยว่ามีหมอผีชื่อซีโมนผู้ทำปาฏิหาริย์ทุกประเภท และพยานถึงปาฏิหาริย์เหล่านี้มองเห็น “อำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า” ในตัวเขา เนื่องจากถูกล่อลวงโดยอำนาจของอัครสาวกในการมอบของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซีโมนจึงต้องการซื้อของกำนัลนี้ให้ตัวเองด้วยเงิน แต่ถูกอัครสาวกตัดสินและปฏิเสธ

ดังนั้น ตั้งแต่ยุคแรกสุดของการดำรงอยู่ของคริสต์ศาสนา คริสตจักรได้ตระหนักถึงความเป็นไปได้ของบุคคลที่ครอบครองพลังพิเศษ แต่ลักษณะของของประทานดังกล่าวในบุคคลที่ตกสู่บาปนั้นไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ดังนั้นผู้ที่วางแผนจะหันไปหาหมอผีหรือนักมายากลควรรู้: อันตรายในกรณีนี้ของการทำร้ายตัวเองนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน ดังนั้นก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากพวกเขาจึงควรทราบถึงความเสี่ยงเนื่องจากเราไม่รับประทานยาโดยไม่อ่านคำแนะนำเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา

- อันตรายนี้คืออะไร?

ทั้งนักต้มตุ๋นธรรมดาและผู้ที่มีพลังพิเศษบางประเภททำงานในตลาดบริการลึกลับ ในกรณีแรก คุณเสี่ยงที่จะทิ้งเงินหรือตัดสินใจบางอย่างที่จะทำลายและแม้กระทั่งทำลายชีวิตของคุณ

หากบุคคลหนึ่งกำลังเผชิญกับผู้หลอกลวงระดับสูง เขาก็สามารถพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญรายนี้ได้อย่างง่ายดาย ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่มีส่วนร่วมในการฝึกฝนประเภทนี้เพื่อเงินมีความสนใจที่จะผูกมัดลูกค้าไว้กับตัวเองเป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไป หลายคนกลายเป็นนักจิตวิทยาที่ดี โดยระบุจุดอ่อนและเชือกได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพวกเขาสามารถดึงบุคคลและมัดเขาเข้ากับ "ตะขอ" ที่จำเป็นได้อย่างแน่นหนา

บางครั้งคนแบบนี้ก็หันไปขู่: ถ้าคุณทิ้งฉันไปคุณจะรู้สึกแย่

ในกรณีที่สองคุณจะได้รับอันตรายที่สำคัญยิ่งกว่านั้น - ฝ่ายวิญญาณเพราะผู้ที่มีความสามารถจริงๆ นั้นเป็นตัวนำพลังทำลายล้างที่มืดมน

- เหตุใดคริสตจักรจึงมั่นใจในเรื่องนี้?

เพียงเปรียบเทียบผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้กับนักบุญที่ได้รับของประทานแห่งการรักษาและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งก็เพียงพอแล้ว

ไม่มีนักบุญคนใดที่ทำให้การสร้างปาฏิหาริย์เป็นเป้าหมายหลักในชีวิตของพวกเขา

และเฉพาะผู้ที่เป็นแพทย์ตามอาชีพ เช่น Saint Panteleimon หรือ Saint Luke แห่งแหลมไครเมียเท่านั้นที่มีส่วนร่วมในทางการแพทย์ วิสุทธิชนอาศัยอยู่ในพระเจ้า และเนื่องจากความบริสุทธิ์ของจิตใจของพวกเขา เนื่องจากความใกล้ชิดของพวกเขากับพระองค์ พระเจ้าจึงทรงปฏิบัติตามคำอธิษฐานของพวกเขาและมอบของขวัญให้พวกเขา

วิสุทธิชนหลายคนหนีของประทานเหล่านี้และถึงกับสวดภาวนาให้สูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป เพราะพวกเขาเข้าใจว่าการตกสู่ความจองหองนั้นง่ายเพียงใด

เราจะได้เห็นผู้นับถือศรัทธาที่แท้จริงในหมู่ผู้รักษาและนักพลังจิตยุคใหม่ เช่นเดียวกับ "คุณย่า" และนักพลังงานชีวภาพหรือไม่? ไม่ พวกเขาไม่ได้ดีไปกว่าพวกเราทุกคน ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเรื่องปกติที่จะถามคำถาม: ของขวัญที่น่าอัศจรรย์ของพวกเขามาจากไหน?

และบางทีสิ่งที่สำคัญที่สุด: การรักษาใด ๆ ปาฏิหาริย์อื่น ๆ ที่ทำโดยคำอธิษฐานของวิสุทธิชน นำผู้ที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับพระเจ้า หรือนำเขากลับไปสู่เส้นทางอันชอบธรรมในการติดตามพระคริสต์หากเขาละทิ้งสิ่งนี้ เส้นทางมาก่อน

และการรักษาของ “คุณย่า” หรือพลังงานชีวภาพนำไปสู่อะไร? มนต์รักและการพลิกฟื้นของพ่อมดและนักมายากลนำไปสู่อะไร? “ท่านจะรู้จักพวกเขาด้วยผลของพวกเขา” พระคริสต์ในข่าวประเสริฐกล่าว

เมื่อบุคคลสัมผัสกับพลังที่ต่อต้านพระเจ้าและหันไปขอความช่วยเหลือ เขาให้สิทธิ์ทุกประการในการเข้าสู่ชีวิตของเขาและทำลายและบิดเบือนทุกสิ่ง ให้สิทธิ์ในการควบคุมตัวเอง

บุคคลเช่นนี้ขายวิญญาณของเขาให้กับปีศาจอย่างแท้จริง เป็นอิสระขึ้นอยู่กับความประสงค์ของมาร พระสงฆ์ต้องรับมือกับผลที่ตามมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งก็ล่าช้ามาก

“บริการ” ต้องจ่ายอะไรบ้าง?

คุณสามารถจำนักจิตอายุรเวทที่มีชื่อเสียงเช่น Anatoly Kashpirovsky ได้ ในระหว่างการประชุมและโทรทัศน์ ผู้คนประพฤติตนราวกับถูกครอบงำ และหลังจากนั้นพวกเขามักจะจบลงที่โรงพยาบาลด้วยอาการผิดปกติทางจิตและระบบประสาท เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้สำเร็จได้ไม่เพียงแต่จากการกระทำของเขาเท่านั้น แต่ยังมีพลังอื่น ๆ ที่ทำงานอยู่ที่นี่อีกด้วย นี่คือข้อเท็จจริง คุณจะเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?

หรือนี่คือครอบครัวที่แท้จริง เหตุการณ์เลวร้ายก็เริ่มเกิดขึ้นในนั้น และไม่มีใครเข้าใจได้ว่าอะไรคือจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่นำไปสู่การทำลายล้างของครอบครัวนี้และแม้แต่บุคลิกของสมาชิกในท้ายที่สุด และปรากฎว่าครอบครัวนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยคาถารักคาถา...

ฉันรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเมื่อมองดูบุคคลหนึ่งแล้วบางครั้งอาจรู้สึกว่าอีกไม่นานเขาจะตาย มีหลายกรณีในชีวิตของเธอเมื่อเธอสามารถ "บรรเทา" การโจมตีของโรคลมบ้าหมูในผู้คนได้ - โดยบังเอิญเธอได้พบกับผู้ป่วยดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน ตามที่เธออธิบาย ทุกครั้งหลังจากนี้เธอจะรู้สึกถึงความหายนะ ความเหนื่อยล้า และความอ่อนแออย่างรุนแรง

เธอรู้สึกถึง "ความประณีต" บางอย่างในตัวเธอ และการปรับแต่งนี้เป็นแบบที่พวกเขาพูดว่า: "ผอมตรงไหนมันก็พัง" สำหรับเธอบ่อยครั้งดูเหมือนว่าการแตกร้าวบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าเธอกำลังเดินอยู่บนขอบ

วันหนึ่งอยากจะช่วยชายคนหนึ่งที่เป็นโรคลมบ้าหมูอีกครั้งโดยการสัมผัสเขาเธอก็ตกอยู่ในภาวะกึ่งรู้สึกตัวและในสภาพนี้เห็นหมู่บ้านพวกนาซีและชายคนนี้ในชุดตำรวจอายุน้อยกว่ามาก . ขณะนั้นโรคลมบ้าหมูก็สงบลง และพูดกับเธอเป็นภาษาเยอรมัน...

และด้วยเหตุผลบางอย่าง หลังจากเหตุการณ์นี้เองที่เธอตระหนักว่าเธอจะละทิ้งความช่วยเหลือดังกล่าวตลอดไป ต้องบอกว่าสิ่งนี้ทำให้เธอต้องทำงานหนักมากและตามที่เธอบอกเธอพบความรอดในความจริงที่ว่าเธอจงใจ "โง่" ที่เกี่ยวข้องกับลางสังหรณ์และรายละเอียดปลีกย่อยดังกล่าว

มีเกณฑ์สำคัญประการหนึ่ง: ทุกสิ่งที่มาจากพระเจ้าทำให้จิตใจเต็มไปด้วยสันติสุขและสันติสุข ในเวลาเดียวกัน บุคคลไม่มีความกลัว ไม่มีความวิตกกังวล ไม่มี "ตัวสั่น" ทางร่างกายหรือจิตใจ

และพลังที่มาจากศัตรูและ "ความช่วยเหลือ" ที่เขามอบให้นั้นมักจะเกี่ยวข้องกับความรู้สึกกระสับกระส่ายความไม่แน่นอนความตื่นเต้นและความสูงส่ง
แต่ความแตกต่างนี้สามารถสัมผัสได้อย่างแท้จริงโดยผู้ที่มีทักษะในการแยกแยะระหว่างความดีและความชั่วเพื่อแยกแยะวิญญาณ ดังที่อัครสาวกเปาโลกล่าว สำหรับเรา คนธรรมดาและอ่อนแอที่สุด ดีกว่าที่จะอยู่ห่างจากเรื่องทั้งหมดนี้

เวทมนตร์ “สีขาว” หรือปีศาจร้ายปลอมตัว

อาจมีคนแย้งว่า: ท้ายที่สุดแล้วมีคนที่มีพลังพิเศษที่ไม่ทำเวทมนตร์ พวกเขาต้องการช่วยเหลือจริงๆ: วินิจฉัย เยียวยา เตือน สั่งสอน หลายคนส่งผู้คนไปโบสถ์เพื่อจุดเทียน แม้กระทั่งรับบัพติศมา หรือเพื่อสารภาพและรับศีลมหาสนิท และการที่พวกเขารับเงินหมายความว่าพวกเขาจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่กับบางสิ่ง... และแพทย์ก็รับเงินด้วย

มารนั้นมีไหวพริบ และสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มจะชั่วร้าย เขาก็เสนอความชั่วร้ายที่เปิดเผย ส่วนผู้ที่มีเจตนาดีเหมือนกันก็จะถวายความชั่วโดยบังหน้าว่าเป็นความดี

ผู้ที่มีพลังพิเศษส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหนและไม่สามารถควบคุมพวกมันได้อย่างเต็มที่ “พลังงานจากอวกาศ” ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อแก้ตัวสำหรับลูกค้า คุณจะพูดอย่างชัดเจนได้อย่างไรว่าคุณทำได้ดีถ้าเครื่องดนตรีที่คุณใช้นั้นไม่อยู่ในอำนาจของคุณอย่างสมบูรณ์!

และความจริงที่ว่าพวกเขาส่งคนไปโบสถ์หรือตกแต่งสำนักงานด้วยของกระจุกกระจิกแบบคริสเตียนก็ไม่น่าแปลกใจ เราอาศัยอยู่ในประเทศที่มีรากฐานมาจากออร์โธดอกซ์ที่เก่าแก่และลึกซึ้ง และผู้คนที่ให้บริการประเภทนี้ก็เก่งในเรื่องนี้ หากพวกเขาพิจารณาอย่างจริงใจว่าการปฏิบัติและศีลระลึกในโบสถ์เป็นสิ่งหนึ่ง - "จิตวิญญาณ" นี่เป็นการหลอกลวงอีกครั้งโดยเจ้าเล่ห์มารที่ฉันกำลังพูดถึง

“ฉันนิสัยเสีย”!

และหากบุคคลหนึ่งถูกบังคับให้จัดการกับหมอผีโดยขัดกับเจตจำนงเสรีของตนเอง เช่น มีคนตัดสินใจร่ายมนตร์ใส่เขา สิ่งนี้เป็นอันตรายหรือไม่?

ไม่จำเป็นต้องกลัว หากเราพบวัตถุลึกลับบางอย่างในบ้านหรือที่ทำงานที่มีคนปลูกไว้บนเรา สิ่งสำคัญคือไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะความกลัวเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดความเจ็บป่วยและความโชคร้ายทุกชนิดมาให้เรา เพราะความกลัวคือความไม่ไว้วางใจในพระเจ้า . ถ้าเรากลัว นั่นหมายความว่าเราเชื่อว่าศัตรูแห่งความรอดของเราแข็งแกร่งกว่าพระเจ้า และพระเจ้าจะไม่ทรงปกป้องเรา และการขาดศรัทธาหรือไม่ไว้วางใจพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ถือเป็นบาปที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง เมื่อเราแยกตนเองออกจากพระเจ้าโดยการขาดศรัทธา เราก็ไม่เต็มใจที่จะพบว่าตัวเองอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู

แต่ในเวลาเดียวกัน คุณไม่สามารถตำหนิความโชคร้ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นหรือปัญหาในชีวิตของคุณจากความเสียหายหรือนัยน์ตาปีศาจที่เกิดจากใครบางคน นี่เป็นความพยายามที่จะปลดเปลื้องความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนและสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น ด้วยการมองดูตัวเราเองอย่างซื่อสัตย์และเอาใจใส่ จะเห็นได้ชัดว่าต้นตอของปัญหาทั้งหมดของเราไม่ได้อยู่ที่ใครหรือสิ่งใดเลย แต่ท้ายที่สุดแล้วจะเหมือนเดิมเสมอ - การละทิ้งความเชื่อจากพระเจ้าหรือความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการจดจำพระองค์

แล้วถ้าญาติคนใดคนหนึ่งอยากช่วยเอารูปถ่ายคนไปโบสถ์ไปหาหมอผีหรือหมอผีเขาควรทำอย่างไร?

หากเจตจำนงของบุคคลที่ถ่ายรูปไปให้ผู้รักษาไม่อยู่ในสิ่งนี้ และหากเขาอยู่ในคริสตจักรแล้วจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งนี้ ที่นี่คุณสามารถลองให้เหตุผลกับผู้ที่ "เป็นห่วง" มากสวดภาวนาเพื่อให้ความตั้งใจของพวกเขาไม่เป็นจริงและหากล้มเหลวก็ให้พึ่งพาพระประสงค์ของพระเจ้า

ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกหรือขัดแย้งกับเพื่อนหรือญาติที่ไร้เหตุผลเหล่านี้อย่างแน่นอน เพราะศัตรูต้องการเหตุผลที่จะบุกรุกชีวิตของเราและเริ่มต้นการทำลายล้างของเขาเสมอ

และเหตุผลนี้กลายเป็นความกลัวของเราในฐานะความไม่ไว้วางใจพระเจ้า ความขมขื่นของเราต่อใครบางคน ความไม่สงบภายในของเรา

แต่ถ้าเราทำทุกอย่างนี้แล้วยังมีบางสิ่งเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าพระเจ้าทรงยอมให้มันเกิดขึ้น ขอย้ำอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของการมีคนไปหาหมอผีพร้อมรูปถ่ายของเรา แต่เพราะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า และด้วยเหตุผลบางอย่างเราจำเป็นต้องอดทนกับสิ่งนี้ เราต้องดูว่าเกิดอะไรขึ้นในแบบคริสเตียน

ดังนั้นคุณพูด - พยายามให้เหตุผล - แต่ทำไมต้องอุทธรณ์ถ้ามีคนพูดว่า: "ฉันไม่สนใจตราบใดที่ความเจ็บปวดหยุดลง"?

ในจดหมายฝากของอัครสาวกมีความคิดเช่นนี้:

ผู้ที่มีเหตุผลจะต้องได้รับการช่วยเหลือด้วยการโต้แย้งที่สมเหตุสมผล และผู้ที่เห็นได้ชัดว่าไม่มีเหตุผลจะต้องได้รับการช่วยเหลือด้วยความกลัว

ในกรณีนี้ ความกลัวนี้อาจช่วยชีวิตได้ คุณต้องทำความคุ้นเคยกับผลข้างเคียงทั้งหมดของการรักษาดังกล่าวให้คนที่คุณรัก และจากนั้นสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือการสวดภาวนาให้พวกเขาและหวังว่าพวกเขาจะเลือกสิ่งที่ถูกต้อง แต่ชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับตัวเขาเองเท่านั้น และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานแก่ทุกคนตามใจของเขา ถ้าผู้ใดพยายามจะล่อลวง เขาจะถูกล่อลวง เราไม่สามารถช่วยเขาให้พ้นจากความประสงค์ของเขาได้

“มีพ่อมด แต่ไม่มีพระเจ้า”

บางคนเชื่อเรื่องคาถา เวทมนตร์ “พลังจักรวาล” กล่าวคือ พวกเขาไม่ใช่พวกวัตถุนิยม แต่พวกเขาไม่เชื่อในพระเจ้า เพราะเหตุใด

คุณรู้ไหมว่าครั้งหนึ่งฉันเคยถามเพื่อนของฉันซึ่งเป็นคนที่ดีและเอาใจใส่ซึ่งมักจะถามคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าและศรัทธา: “ทำไมคุณไม่นำข่าวประเสริฐไปอ่าน?” เขาตอบผมตามตรงว่า “ผมรู้ว่าสิ่งที่เขียนไว้เป็นความจริง และถ้าผมอ่าน ผมคงต้องใช้ชีวิตแบบนั้น แต่ผมยังไม่พร้อม...” นี่คือคำตอบ

นักมายากลและนักเวทย์มนตร์ “พลังแห่งจักรวาล” ให้การยกย่องตนเองของมนุษย์เป็นศูนย์กลาง แม้จะผ่าน “การพัฒนา” ของเขาก็ตาม

หลายคนพูดถึง "ความรัก" "การให้อภัยคำดูถูก" - เพื่อ "ชำระล้างรัศมี" กล่อมคนใจง่ายให้หลับด้วยคำพูดที่สวยงาม

แต่ในโลกบาปของเรา ไม่มีการให้อภัยความผิดหรือความรักที่ปราศจากความทุกข์ พระคริสต์ตรัสโดยตรงว่า หากเราต้องการเป็นคนดีขึ้น เรียนรู้ที่จะรัก เราต้องติดตามพระองค์ วิถีทางแห่งกางเขนของพระองค์ - แต่ละคนอยู่ในขนาดของเราเอง

ใช่แล้ว อาณาจักรของพระเจ้าอยู่ภายในตัวเรา กล่าวคือ เราสามารถมีความสุขได้บนโลกนี้แล้ว แต่ก่อนอื่นเราจะต้องไม่ "ยกย่องตนเอง" แต่ถ่อมตัวลง ปฏิเสธตนเองเสียก่อน มันเจ็บปวดและยากลำบาก แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมสำหรับสิ่งนี้

มีอีกเหตุผลว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึง "เลือก" นักมายากลมากกว่าพระเจ้า นักจิตวิทยากล่าวว่าคนสมัยใหม่เป็นโรคกลัวต่างๆ มากมาย แต่ทั้งหมดสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ - ความกลัวในการใช้ชีวิต อาการหนึ่งของความกลัวนี้คือการไม่เต็มใจที่จะรับผิดชอบ

เมื่อมาถึงหมอผีนักมายากลหรือผู้รักษาคน ๆ หนึ่งพูดว่า: "ฉันมีปัญหาเช่นนี้แก้ไขให้ฉัน" นั่นคือเขาเปลี่ยนความรับผิดชอบต่อชีวิตของเขาให้กับคนอื่น

และเขาไม่สนใจว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขอย่างไร และพวกเขาจะทำอะไรกับเขา

การแสดงความกลัวในการใช้ชีวิตอีกประการหนึ่งคือการขาดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เนื่องจากการวิเคราะห์ใดๆ จำเป็นต้องมีทางเลือก และด้วยเหตุนี้จึงต้องมีความรับผิดชอบ คนบางประเภทต้องทนทุกข์ทรมานจากสิ่งนี้ คนที่ลงเอยด้วยลัทธิไสยศาสตร์และนิกายเผด็จการ

และมีคนที่จะไปหานักมายากลและผู้รักษาไม่ว่าในกรณีใด ๆ ถ้าฉันไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะทำอะไรกับฉันฉันก็จะไม่ยอมให้ใครทำอะไรกับฉัน

แต่ในชีวิตมีสถานการณ์ตึงเครียดและสุดโต่งเมื่อบุคคลไม่สามารถประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างเพียงพอ รวมถึงการคิดอย่างมีวิจารณญาณ มีข้อควรระวังด้านความปลอดภัยสำหรับพวกเขาเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในเงื้อมมือของหมอผีหรือนักต้มตุ๋นหรือไม่?

บุคคลที่อยู่ในสถานการณ์วิกฤติทำสิ่งที่เหมาะสมกับธรรมชาติของเขา

และหากในสภาวะปกติเขาได้พัฒนาทัศนคติที่ชัดเจนต่อบริการและปรากฏการณ์เช่นคาถาและเวทมนตร์แล้วแม้จะอยู่ภายใต้ความเครียดเขาก็จะไม่หันไปพึ่งสิ่งเหล่านั้น

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าหากอย่างน้อยหนึ่งครั้งแม้ในรูปแบบของเกมเช่นในพิธีทางจิตวิญญาณบุคคลที่เรียกพลังแห่งความมืดอย่างมีสติหรือเข้าสู่การมีปฏิสัมพันธ์กับมันตัวเขาเองก็เปิดประตู แก่ศัตรูในชีวิตของเขา

แล้วการยุบสหภาพนี้อาจเป็นเรื่องยากมากเพราะเมื่อได้รับสิทธิ์ในบุคคลแล้วมารจะไม่ต้องการยอมแพ้พวกเขาง่ายๆ และบุคคลนั้นจะถูกบังคับให้จ่ายเงินไม่ใช่สำหรับความปรารถนาที่จะยุบสหภาพ แต่สำหรับความจริงที่ว่าเขาอนุญาตให้สหภาพนี้เกิดขึ้น แต่สิ่งนี้จะต้องมีประสบการณ์ - อย่างถ่อมตัวและกล้าหาญ และถ้าคุณหันไปหาพระเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือและพยายามเพื่อพระองค์อย่างแท้จริง พระเจ้าจะทรงช่วยเหลือ ปกป้อง และปลดปล่อย

หากคุณรู้จักแม่มดในหมู่ผู้คน คุณจะสามารถป้องกันตัวเองจากคาถาชั่วร้ายและแผนการของผู้ประสงค์ร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีการเหล่านี้ง่ายและมีประสิทธิภาพในเวลาเดียวกัน พวกมันถูกประดิษฐ์ขึ้นในสมัยโบราณโดยบรรพบุรุษของเรา และจากนั้นก็ดัดแปลงโดยนักลึกลับ

ในบทความ:

จะรู้จักแม่มดได้อย่างไรและทำไมคุณถึงต้องการมัน

แหล่งข้อมูลแรกที่สอนวิธีระบุแม่มดตามเกณฑ์ต่างๆ ปรากฏในยุคกลาง มีการใช้งานบ้างแล้ว พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องกับคาถาและบาป สัญญาณบางอย่างเหล่านี้เป็นความเชื่อโชคลาง ซึ่งไม่รู้ว่ามันรอดมาได้อย่างไรจนถึงทุกวันนี้ พวกเขากลัวแม่มดและถูกมองว่าเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย พืชผลล้มเหลว และความหิวโหย จึงถูกเผาทั้งเป็น

หากในระหว่างการล่าแม่มดในยุคกลาง วิธีการระบุตัวแม่มดมีการใช้งานจริง ตอนนี้การใช้ส่วนใหญ่ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และเหตุใดจึงทำเช่นนี้เมื่อการศึกษาเรื่องความลับและการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้มานั้นไม่ถูกลงโทษหรือถูกไล่ออก? แต่ถึงกระนั้น วิธีการระบุแม่มดก็ยังมีประโยชน์อยู่

เมื่อใช้ตัวเลือกการยืนยันที่มีอยู่ คุณจะสามารถดูได้ว่ามีแม่มดอยู่ในสภาพแวดล้อมของคุณหรือไม่ ด้วยวิธีนี้ คุณจะหลีกเลี่ยงคาถาเชิงลบได้หากคุณสงสัยว่าศัตรูของคุณชอบใช้เวทมนตร์ เป็นข้อเท็จจริงที่ทราบกันดีว่าหลังจากลบความเสียหายหรือโปรแกรมเชิงลบอื่น ๆ แล้วผู้ที่ก่อให้เกิดมันจะติดต่อกลับอย่างแน่นอน นี่เป็นวิธีการระบุตัวแม่มดด้วย ซึ่งเหมาะหากเธอทำร้ายคุณ

บางทีสัญญาณของแม่มดอาจช่วยให้ผู้อ่านบางคนพบผู้หญิงที่มีใจเดียวกันหรือมั่นใจในความสามารถของตน เป็นเรื่องง่ายที่จะค้นหาตัวเองว่าคุณเป็นแม่มดหรือไม่

อย่าลืมว่าไม่ใช่ว่าแม่มดทุกคนจะฝึกฝนและฝันว่าจะเสกคาถาใส่คุณ ส่วนใหญ่ไม่มีเวลาสำหรับการก่อวินาศกรรมเล็กๆ น้อยๆ นอกจากนี้แม่มดยังได้รับชื่อเสียงดังกล่าวในยุคกลางเมื่อคนที่มีความสามารถด้านเวทย์มนตร์ถูกมองว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของปีศาจและถูกเผาบนเสา

จาก Old Church Slavonic คำแปลโดยประมาณของคำนี้คือ "การรู้จักแม่" ในรัสเซีย แม่มดถูกมองในแง่ดี โดยรู้ว่าพวกเขาสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้ ช่วยเหลือผู้หญิงที่กำลังคลอดบุตร และขจัดนัยน์ตาปีศาจได้ อย่างไรก็ตาม หากแม่มดสร้างความเสียหายให้กับผู้คน ปศุสัตว์ หรือพืชผล เธอจะถูกจมน้ำหรือเผาในบ้านของเธอเอง

สัญญาณของแม่มดในโบสถ์

วัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ได้หมายความว่าแม่มดไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้ ผู้หญิงที่ฝึกฝนมนต์ดำไม่ค่อยเชื่อในพระเจ้าแต่น้ำศักดิ์สิทธิ์ เทียนในโบสถ์ และสิ่งของอื่นๆ มักเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นในพิธีกรรม นอกจากนี้วิธีหนึ่งคือการจุดเทียนเพื่อการพักผ่อนของผู้มีชีวิต แม่มดขาวมักปรากฏในโบสถ์ แต่เพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง พวกเขาแทบจะไม่โดดเด่นจากฝูงชนของนักบวชคนอื่นๆ

วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์เป็นวันพิเศษในชีวิตของผู้ศรัทธาทุกคน แม่มดในวัดสามารถจดจำได้ด้วยสัญญาณอีสเตอร์ซึ่งเตือนถึงอุบายของพวกเขาเพราะแม่มดสามารถนำความเจริญรุ่งเรืองและความสงบสุขในบ้านไปหากเธอต้องการ แม่มดแห่งแสงสว่างพยายามหยิบเทียนพิเศษของโบสถ์และเกลือศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีพลังในการรักษา นอกจากนี้ยังมีการสมรู้ร่วมคิดมากมายสำหรับ Maundy Thursday - เพื่อความงามเงินและวัตถุประสงค์อื่น ๆ

เมื่อพิจารณาจากสัญญาณโบราณย้อนหลังไปถึงสมัยการทดสอบน้ำสำหรับผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเวทมนตร์ แม่มดในโบสถ์จึงล่องหน หากต้องการระบุหนึ่งในนั้นในวันพฤหัสบดีคุณต้องสวมเสื้อผ้าด้านในออก ไปโบสถ์ และไม่แตะต้องสิ่งใดๆ ในสมัยก่อนพวกเขาเชื่อว่าในกรณีนี้คุณสามารถเห็นแม่มดเปลือยกายอยู่ใกล้บาทหลวง

ในอดีตเชื่อกันว่าแม่มดเดินออกจากโบสถ์ไปข้างหลัง แต่เหตุผลของสิ่งนี้ไม่ใช่รังสีศักดิ์สิทธิ์ที่เผาหางของเธอเลยซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีอยู่ พิธีกรรมบางอย่างจำเป็นต้องออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในลักษณะนี้จริงๆ และมีพิธีกรรมมากมายด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทราบว่าเหตุใดแม่มดจึงเข้ามาในวัดโดยสังเกตว่าเธอออกไปอย่างไร

หากคุณระวังกลอุบายแม่มดเมื่อไปโบสถ์ ให้นำกิ่งโรวันติดตัวไปด้วย มันจะช่วยให้คุณติดตามนักมายากลและไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ ปกป้องคุณจากคาถาดำ และเพิ่มพลังการสังเกตของคุณ ด้วยเครื่องรางนี้ คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแม่มด คุณสามารถนำมันไปวัดได้ไม่เพียงเท่านั้น

มีแม่มด. สำหรับตัวแทนหลายๆ คน คริสตจักรกลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการเติมพลังให้กับผู้อื่น ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำสิ่งนี้ได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น และในขณะนี้ แม่มดก็สามารถถูกตรวจพบได้ เพื่อดูดพลังงานของคุณ เธอจะเดินไปรอบๆ คุณทวนเข็มนาฬิกา แล้วใช้มือซ้ายแตะคุณเบาๆ ราวกับบังเอิญ หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับคุณ ให้ผลักแม่มดกลับด้วยมือซ้าย หลังจากนั้นการพยายามป้อนอาหารของเธอจะไม่มีประโยชน์ เป็นไปได้มากว่าแม่มดแวมไพร์จะจำคุณได้นาน

ในวันอีสเตอร์ แม่มดจะพยายามเป็นคนแรกที่จะข้ามธรณีประตูโบสถ์แล้วแตะที่จับประตู หากผู้หญิงมาสักการะในช่วงวันหยุดตอนเช้าและไม่ออกจากประตูเพื่อเป็นคนแรกที่จะเข้าไป เป็นไปได้มากว่าเธอกำลังฝึกเวทมนตร์อยู่

วิธีจดจำแม่มด - ความเชื่อโชคลางโบราณ

ก่อนหน้านี้เชื่อกันว่าสัญญาณอย่างหนึ่งของแม่มดคือความสามารถในการกลายร่างเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ เช่น แมว งู คางคก พวกเขาชอบนมสด ดังนั้นโรงนาและพื้นที่สัตว์เลี้ยงอื่นๆ จึงสามารถเป็นสถานที่ที่ดีในการจับแม่มด หากคุณสังเกตเห็นกบ แมวดำ หรืองูดื่มนมจากจานที่ถูกทิ้งร้าง ควรไล่สัตว์นั้นออกไป

หากคุณทำให้เขาบาดเจ็บ แม่มดในร่างมนุษย์ก็จะได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน พวกเขามองหาแม่มดในหมู่บ้านต่างๆ เนื่องจากแขนหรือขาหักหรือมีรอยช้ำขนาดใหญ่ การสืบสวนยอมรับหลักฐานดังกล่าว และเป็นเรื่องยากสำหรับชาวบ้านที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเวทมนตร์ที่จะพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขโมยนมด้วยเวทมนตร์

สมัยก่อนคนกลัวแม่มดเข้ามาในบ้าน บุคคลที่ต้องสงสัยว่าเป็นเวทมนตร์อาจปรากฏตัวโดยมีเจตนาที่ไม่สะอาด ในสมัยก่อนพวกเขาพยายามเปิดเผยผู้ที่ต้องการขโมยสิ่งของที่จำเป็นสำหรับพิธีกรรมนี้ เคยเชื่อกันว่าถ้าเอามีดซุกไว้ใต้ผ้าปูโต๊ะ แม่มดจะไม่สามารถออกจากบ้านได้ เธอจะมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไปเพื่ออยู่ในงานปาร์ตี้ให้นานขึ้น และหลังจากนั้นสักพักเธอก็จะสิ้นหวัง คุณสมบัติเดียวกันนี้เกิดจากเข็มที่มุมทางเข้าประตู

ในหมู่บ้านห่างไกล พวกเขาเชื่อว่าหากครอบครัวมีลูกสาวเจ็ดคน หนึ่งในนั้นจะกลายเป็นแม่มดหรือแม่ของเธออย่างแน่นอน ตามตำนานกล่าวว่าลูกชายคนที่เจ็ดจากลูกชายคนที่เจ็ดจะกลายเป็นหมอผี

วิธีการระบุแม่มดโดยใช้วิธีการสืบสวน

ไม่มีความลับใดที่นักล่าแม่มดใช้การทรมานระหว่างกระบวนการสอบสวน เชื่อกันว่าผู้ที่ขายวิญญาณของเธอให้กับซาตานเพื่อแลกกับความสามารถด้านเวทย์มนตร์นั้นมีบริเวณบนร่างกายของเธอที่ไม่รู้สึกเจ็บปวด หากคุณแทงพวกเขาด้วยเข็ม ผู้ต้องสงสัยจะไม่รู้สึกอะไรเลย ปรมาจารย์แห่งการทรมานเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยม หากพวกเขาเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาแกล้งทำ เธอก็จะถูกประกาศว่าเป็นแม่มด จริงอยู่ที่ตอนนี้วิธีนี้สามารถนำไปสู่ความรับผิดทางอาญาได้

ผู้สอบสวนเชื่อว่าแม่มดสามารถจดจำได้จากรูปร่างหน้าตาของเธอ พวกเขาไม่เพียงแต่ใช้การทรมานในการทำงานเท่านั้น ในยุคกลาง พวกเขาเชื่อว่าซาตานได้ทำเครื่องหมายพิเศษด้วยกรงเล็บอันร้อนแรงบนร่างของผู้ที่ขายวิญญาณของตนให้เขา พวกเขามองหาไฝที่อยู่ในสถานที่ที่ไม่เด่น - ใกล้อวัยวะเพศ, รักแร้, ในเส้นผม, ในปาก พวกเขาถูกแทงด้วยเข็ม และหากไม่มีเลือด ผู้หญิงคนนั้นก็จะถูกตัดสินประหารชีวิต

แม่มดยุคใหม่อาจมีไฝขนาดใหญ่ที่แปลกประหลาดซึ่งจะเผยให้เห็นแก่นแท้ที่แท้จริงของเธอ แต่ถ้าคุณไม่รู้จักผู้ต้องสงสัยดีพอ การค้นหาร่องรอยของแม่มดก็เป็นเรื่องยาก แบรนด์สามารถมีสีและขนาดใดก็ได้ ดูไม่เหมือนไฝธรรมดาแม้ว่าจะพบเครื่องหมายในรูปของกลุ่มดาวซึ่งถือเป็นสัญญาณของแม่มดก็ตาม

ในระหว่างการล่าแม่มด เชื่อกันว่าเด็กมีหางมีพลังเหนือธรรมชาติ มีกรณีการประหารชีวิตเด็กดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อวัยวะเล็ก ๆ ในบริเวณก้นกบยังคงปรากฏอยู่ในโลกสมัยใหม่โดยส่วนใหญ่มักถูกเอาออกในโรงพยาบาลคลอดบุตร

วิธีจดจำแม่มดตามรูปลักษณ์ภายนอก

ลองมองดูการจ้องมองของเธออย่างใกล้ชิด สำหรับแม่มดนั้นมีความหวงแหนหนักและเจาะลึกถึงแก่นแท้ของบุคคล รูปลักษณ์นี้ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจคุณต้องการหยุดการสื่อสารและย้ายออกไป แม้ว่าคุณจะพบกับแม่มดผู้สดใส ดวงตาของคุณก็จะเผยให้เห็นความรู้และประสบการณ์ชีวิตมากมาย ผู้มีอำนาจแห่งความมืดอาจมีสายตาที่เย้ายวนและไม่เป็นที่พอใจ

สีตาไม่ได้ช่วยในการระบุแม่มด พวกเขาสามารถเป็นสีใดก็ได้ แต่สีเขียวและสีเทาสีเขียวเป็นเรื่องธรรมดามากกว่า เกือบทุกครั้งดวงตาของแม่มดตัวจริงจะสว่างและแปลกตาโดยมีเฉดสีแปลกตาเช่นสีม่วงหรือสีเหลืองอำพัน ดวงตาที่มีสีต่างกันเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือของแม่มด

ผู้หญิงเกือบทุกคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการศึกษาเวทมนตร์นั้นมีเสน่ห์มาก พวกมันมีแม่เหล็กพิเศษ แม้ว่าพวกมันมักจะมีสิ่งน่ารังเกียจอยู่ในรูปลักษณ์ของมันก็ตาม อย่างไรก็ตาม แม่มดตัวจริงมักมีสติปัญญาเพียงพอที่จะเปลี่ยนข้อบกพร่องให้เป็นลักษณะเฉพาะของเธอเอง นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กสาว แต่แม่มดที่มีอายุมากกว่าก็ไม่ด้อยไปกว่าพวกเธอในเรื่องความงาม จริงอยู่ โดยปกติแล้วเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจว่ารูปลักษณ์ภายนอกของแม่มดดูน่าดึงดูดใจเพียงใด

ผู้หญิงที่รู้ความลับของคาถาแทบไม่เปลี่ยนรูปลักษณ์ตามอายุ หากมีผู้หญิงในแวดวงของคุณที่อายุ 45 ปีดูเหมือนอายุ 20 ปี แต่ไม่ได้ใช้บริการของศัลยแพทย์พลาสติก บางทีเธออาจเป็นแม่มด เช่นเดียวกับรูปร่างที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากเกินไปไม่ว่าสไตล์การกินของผู้หญิงจะเป็นเช่นไร

• คุณจะชอบบทความเกี่ยวกับ

แม่มดส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นผู้ชายอย่างน้อยหนึ่งลักษณะนี่อาจเป็นเสียงต่ำ รูปร่างสูง ข้อมือใหญ่ เชื่อกันว่าแม่มดเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้พวกเขาเลือกเสื้อผ้าและน้ำหอมที่ใส่ได้ทั้งชายและหญิง บางคนไม่มีความหลงใหลในเครื่องสำอาง เพราะเวทมนตร์เพื่อความงามให้โอกาสที่ดี

แม่มดมีผมยาว หนา และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี พวกเขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้คือเสาอากาศที่นำพลังงานจากอวกาศหรือแหล่งอื่นๆ ในสมัยก่อนพวกเขาเชื่อว่าแม่มดจะสูญเสียพลังของเธอหากเธอตัดผม ไม่เป็นความจริงแต่ก็ยังไว้ผมยาวแม้ในโลกสมัยใหม่ที่พลังไสยศาสตร์ไม่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อน

เชื่อกันว่าแม่มดชอบเสื้อผ้าสีเข้ม อย่างไรก็ตามสีของตู้เสื้อผ้าขึ้นอยู่กับความชอบและแนวคิดของสไตล์เท่านั้น แม่มดก็เหมือนกับตัวแทนเพศยุติธรรมคนอื่น ๆ ที่สร้างภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่การมีเครื่องประดับ พระเครื่อง และสัญลักษณ์ลึกลับแปลก ๆ ควรแจ้งเตือนคุณ นักมายากลและพ่อมดแทบจะไม่ทำสิ่งนี้โดยปราศจากสิ่งเหล่านี้และแทบไม่เคยมอบพวกเขาไว้ในมือของคนแปลกหน้าเลย

วิธีสังเกตแม่มดตามพฤติกรรม

หากต้องการระบุตัวแม่มด ให้ใส่ใจกับรูปร่างและสุขภาพของเธอ แม่มดไม่ค่อยมีโรคใดๆ พวกเขามีภูมิคุ้มกันที่ดีเยี่ยมและแม้แต่โรคไข้หวัดก็เป็นสิ่งที่หายากสำหรับตัวแทนคนหนึ่ง นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแม่มดสาว พวกเขามีรูปร่างที่ดีและมีผลการเรียนพลศึกษาดี และมักชอบเล่นกีฬา

หากมีแม่มดในสภาพแวดล้อมของคุณที่เป็นแวมไพร์พลังงานและรู้สึกว่าจำเป็นต้องป้อนพลังงานชีวิตของผู้อื่น คุณคงไม่สงสัยในการมีอยู่ของแม่มด หลังจากสื่อสารกับตัวแทนดังกล่าว ผู้คนจะรู้สึกหดหู่และว่างเปล่า บุคคลที่มีพลังงานต่ำซึ่งมีความไวต่อการสะกดจิตสูงจะรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของมันเป็นอย่างดี

แม่มดมักจะรู้มากกว่าคนอื่นๆ และบางครั้งก็แบ่งปันการคาดเดาของพวกเขา คุณควรฟังคำเตือนของเพื่อนเช่นนั้นหากเธอปฏิบัติต่อคุณอย่างดี คำพูดของพวกเขาเป็นจริง ความปรารถนาที่ไม่ดีที่แสดงออกมาด้วยความปรารถนาของบุคคลดังกล่าวจะได้ผลเหมือนคำสาป นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงแม้อารมณ์ไม่ดี แม่มดก็ยังชั่งน้ำหนักทุกคำพูด

หากผู้หญิงทำให้แน่ใจว่าคนแปลกหน้าไม่ได้สัมผัสผมของเธอและยังทำลายทุกสิ่งด้วยหวีหรือกิ๊บติดผมอย่างระมัดระวัง นี่แสดงว่าเธอรู้ว่าสามารถใช้ทำอะไรในเวทมนตร์ได้ แม่มดตัวจริงจะไม่มีวันมอบผม เล็บ และวัสดุชีวภาพอื่น ๆ ไว้ในมือของบุคคลอื่นเด็ดขาด เมื่อคุณได้รับพวกมันแล้วคุณสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับเธอได้

หมอแม่มดส่วนใหญ่มักมีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูด ความแตกต่างได้รับการแก้ไขและบรรยากาศก็น่ารื่นรมย์ พวกเขามักเคร่งศาสนาและไม่ค่อยปฏิเสธความช่วยเหลือ การพูดคุยกับผู้หญิงประเภทนี้มีคุณสมบัติที่สงบเงียบ นักเวทย์มนตร์ดำทำให้เกิดความกลัวอย่างไม่มีเหตุผลและอธิบายไม่ได้

มีผู้ชายหลายคนอยู่รอบ ๆ แม่มด - เธอรู้วิธีดึงดูดพวกเขาและเป็นที่นิยม ในครอบครัว เธอจะเป็นผู้นำและการตัดสินใจของเธอจะมีอิทธิพลเหนือ

แม่มดมีคนรู้จักมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ แต่ในแง่ของมิตรภาพ พวกเขาเลือกสรรมากกว่าคนอื่นๆ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับแม่มดได้ หากเธอตัดสินใจว่าเธอพูดกับเพื่อนของเธอมากเกินไป เธออาจทำให้สูญเสียความทรงจำได้ คนจะลืมความลับที่แสดงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็มีอย่างอื่นไปด้วย มิตรภาพที่แท้จริงเป็นสิ่งที่หาได้ยากสำหรับแม่มด พวกเขามักจะเผชิญกับความอิจฉาเนื่องจากรูปร่างหน้าตาที่สดใส ความเยาว์วัย รูปร่างที่สวยงาม ความสำเร็จ และแน่นอนว่าเป็นความสนใจของผู้ชาย

มีบรรยากาศแปลกๆ ในบ้านแม่มด เธอสามารถเริ่มทำความสะอาดก่อนที่แขกจะมาถึง แต่คนแบบนี้ไม่ค่อยสนใจความคิดเห็นของคนอื่น และวัตถุแปลก ๆ สองสามชิ้นก็ยังดึงดูดสายตาพวกเขาอยู่ สิ่งเหล่านี้เป็นของหายากไม่ทราบจุดประสงค์ เทียน สมุนไพรแห้ง ผลึก เจ้าของอพาร์ทเมนต์ที่ไม่ธรรมดาอาจมีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในใหม่ แต่จะไม่ลดความแปลกประหลาดของห้อง พระเครื่องและพระเครื่องประจำบ้านตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เด่นไม่แนะนำให้ศึกษาอย่างละเอียดหรือสัมผัสด้วยมือ

• อ่านบทความเกี่ยวกับ

คุณจะจำแม่มดในหมู่ผู้คนได้อย่างไร? เธอเป็นคนใจเย็นและมั่นใจ รู้วิธีควบคุมอารมณ์ เพราะเธอรู้ว่ามีไว้เพื่ออะไร จริงอยู่ เชื่อกันว่าหากคุณเข้าใกล้หนึ่งในนั้นจากด้านหลังแล้วเอามือไปจับไหล่มัน คุณจะโกรธมันได้มาก แต่สิ่งนี้ใช้ได้กับทุกคน - ใครจะชอบสิ่งนี้? อย่างไรก็ตาม มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าใกล้แม่มดผู้แข็งแกร่งโดยไม่มีใครสังเกตเห็น พลังของแต่ละคนสามารถสัมผัสได้ก่อนที่เขาจะปรากฏตัว

แม่มดฉลาดและมีการศึกษาอยู่เสมอ สำหรับพวกเขา จำนวนอนุปริญญาไม่สำคัญ เช่นเดียวกับการมีการศึกษาระดับสูง ในประเด็นใด ๆ ผู้ต้องสงสัยเรื่องเวทมนตร์จะมีความคิดเห็น เธอเป็นคนขยันและสามารถประหลาดใจกับความรู้ของเธอได้

แม่มดส่วนใหญ่รักธรรมชาติเพราะพวกเขาได้รับสารอาหารจากธรรมชาติ จริงอยู่ที่ตัวแทนแต่ละคนมีสถานที่มีอำนาจของตนเอง เพื่อนของคุณอาจจะชอบไปเยี่ยมชมสุสาน สถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน แหล่งน้ำ หรือแม้แต่สถานที่ที่มีการต่อสู้และการประหารชีวิต เธอสามารถสนับสนุนการปกป้องธรรมชาติและแม้กระทั่งเป็นสมาชิกขององค์กรด้านสิ่งแวดล้อมแห่งใดแห่งหนึ่ง

แม่มดมักเชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเศษ พวกเขาใช้เครื่องสำอางและยาจากธรรมชาติและสามารถให้คำแนะนำในหัวข้อนี้ได้ แม่มดมักชอบชาสมุนไพรที่แปลกตาและทดลองกับเครื่องเทศต่างๆ อาหารจานเดียวจะไม่สมบูรณ์หากไม่มีพวกเขา สมุนไพร ราก และเครื่องเทศจำนวนมากยังเผยให้เห็นแม่มดอีกด้วย

แม่มดแห่งแสงรักสัตว์ และพวกมันก็ตอบแทนความรักของพวกเขา ส่วนใหญ่ละทิ้งเนื้อสัตว์และสวมหนังสัตว์ หากแมวที่ไม่เป็นมิตรตามปกติของคุณมีความสุขที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของเพื่อน เขาอาจจะเข้าใจธรรมชาติภายในของเธอ แม่มดไม่กลัวสุนัขข้างถนน พวกเขารู้วิธีเจรจากับพวกมันและผ่านพ้นไปได้โดยไม่เห่าหรือกัด แม่มดไม่ค่อยเฉยเมยต่อสัตว์ข้างถนน พวกเขามักจะช่วยเหลือพวกมัน - ให้อาหารพวกมันและวางไว้ในมือที่ดี

เนื่องจากตอนนี้ไม่จำเป็นต้องซ่อนความหลงใหลในเวทมนตร์ คนที่ฝึกฝนจะสื่อสารโดยใช้แหล่งข้อมูลที่เหมาะสม และในชีวิตจริง พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนหัวข้อดังกล่าวในการสนทนา พวกเขามักจะมีทฤษฎีของตนเองเกี่ยวกับความลึกลับของจักรวาล และพวกเขาก็แบ่งปันทฤษฎีเหล่านั้น

ความรู้ที่ได้รับจะช่วยให้คุณจำแม่มดในสภาพแวดล้อมของคุณได้อย่างง่ายดาย เป้าหมายของสิ่งนี้มีความหลากหลายมาก - เพื่อปกป้องตัวเองและคนที่คุณรักจากอิทธิพลที่เสื่อมทรามของคาถาชั่วร้ายหรือเพื่อค้นหาที่ปรึกษาหรือเพื่อนในโลกแห่งเวทมนตร์

วิธีตรวจสอบสิ่งที่ถูกโยนใส่คุณ อาการและอาการแสดงของคาถาคืออะไร

น่าเสียดายที่การมีอยู่ของเวทมนตร์ เจตนาชั่วร้าย และความปรารถนาที่จะทำร้ายนั้นมีอยู่จริง คนมืด ชั่วร้ายในแก่นแท้ หรือผู้ที่ได้รับของขวัญอันมืดมนและถูกบังคับให้ถือมัน อาจสร้างปัญหาให้กับเราแต่ละคนได้มาก แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะเจอมนตร์ดำ แต่ถ้าคุณรู้สึกแย่ๆ ให้ดูอาการที่แนะนำที่นี่จะดีกว่า บางทีคุณอาจจะเข้าใจสาเหตุของปัญหาของคุณ...

สัญญาณและอาการของตาชั่วร้าย

บุคคลเช่นนี้ย่อมปรากฏให้เห็นแม้เมื่อเขาเข้าไป เขาช้า ยืนอยู่บนธรณีประตูเป็นเวลานาน ปฏิกิริยาของเขาช้า เขาเข้าไปด้านข้างอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่งบนขอบเก้าอี้ และหลีกเลี่ยงการจ้องมองโดยตรง ความไม่แน่ใจ ความเชื่องช้า ความสับสน ความลำบากใจมากเกินไป - แยกแยะบุคคลนี้ เมื่อพยายามให้เขาพูด เขาจะพยายามโต้เถียงและหาข้อแก้ตัว แม้ว่าจะไม่จำเป็นก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือเขาไม่สามารถทนต่อการจ้องมองโดยตรงได้

อาการ: เหนื่อยล้าเพิ่มขึ้น,นอนไม่หลับ แต่นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ หลังการนอนหลับ คุณจะ “แกว่ง” เป็นเวลานาน ง่วงซึม เซื่องซึม และไม่อยากทำแม้แต่สิ่งที่จำเป็นที่สุด

ด้วยสายตาที่ชั่วร้าย หัวใจจะต้องทนทุกข์ก่อน: ความดันลดลง หัวใจล้มเหลว และสิ่งที่ตรงกันข้ามกับจักระหัวใจ - จักระบุคลิกภาพ บุคคลจะแตกต่าง ตำแหน่งชีวิต มุมมอง นิสัย ความชอบ แม้กระทั่งรสนิยมก็เปลี่ยนไป ด้วยดวงตาปีศาจที่แข็งแกร่ง - ดวงตาคล้ำ, เวียนศีรษะ

สัญญาณและอาการของการมีเครื่องหมาย “แวมไพร์”

คนที่มีเครื่องหมายของ "แวมไพร์" ซึ่งติดอยู่กับการฉายไหล่ขวาจะถูกบังคับให้คิดถึงเขาตลอดเวลา เขายื่นความคิดของเขาออกมาเหมือนกระต่ายกับงูเหลือมพยายามพิสูจน์บางสิ่งโต้เถียงหรือประกาศความรักของเขาทางจิตใจ ไม่ว่าในกรณีใด ความสัมพันธ์ดังกล่าวจะเป็นแบบของผู้บริจาคและแวมไพร์เสมอ หน้าที่ของผู้รักษาไม่เพียงแต่ "ลบ" ผนึกเท่านั้น แต่ยังลบแนวคิดเรื่องการปันส่วนผู้บริจาคออกจากความทรงจำด้วย

โดยทั่วไปแล้วความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริจาคกับบุคคลอื่นจะกระตุ้นให้เกิดภาวะแวมไพร์เสมอ นี่เป็นปัญหาของโลกทัศน์อยู่แล้ว คุณต้องคุยกับคนแบบนี้เป็นเวลานาน แต่ข้อโต้แย้งที่ชัดเจนที่สุดไม่ใช่สุขภาพของตนเอง แต่เป็นสุขภาพของลูกๆ พ่อแม่ ฯลฯ เครื่องหมาย "แวมไพร์" มีความสามารถในการครอบครองทุกด้านของชีวิตบุคคล รวมถึงสุขภาพของเขาและสุขภาพของครอบครัวด้วย

เชื่อกันว่าผลของความอิจฉาคือนัยน์ตาปีศาจ นี่เป็นความผิดพลาด นัยน์ตาปีศาจนั้นเป็นผลมาจากความโกรธที่ส่งไปยังบุคคลทางจิตใจเสมอ เป็นที่อิจฉาที่เป็นต้นตอของตราประทับ "แวมไพร์" และเป็นโปรแกรมนี้ที่วางโปรแกรมคำสาปในขณะที่ตาชั่วร้ายสามารถนำไปสู่หรือกระตุ้นให้เกิดความเสียหายได้

สัญญาณและอาการของเลขฐานสิบหก

ความหงุดหงิดและความกลัว ความไม่แน่นอนและความกะทันหันในพฤติกรรม ทุกสิ่งที่นี่พร่ามัวและเข้าใจยากมาก แต่เสมอไป ใบหน้าของบุคคลเช่นนี้ดูเหมือนอยู่ในสายหมอก และการจ้องมองของเขาก็เต็มไปด้วยหมอก เขาอาจจะบ่นเกี่ยวกับนิมิตของเขาจริงๆ

โปรแกรมนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำงาน ติดไว้ที่จุดสูงสุดของหน้าผาก กระจายเป็นจุดใหญ่ทั่วใบหน้าด้วยฟิล์มสีเทา

โปรแกรมนี้ถูกดึงดูดด้วยจุดยืนแห่งความสงสัยในตนเอง ทำให้ผู้อื่นสงสัยบุคคลนี้ ส่วนใหญ่มักเป็นผลจากความเครียด ความซึมเศร้า หรือการทะเลาะวิวาทกันเล็กน้อย

สัญญาณและอาการของการใส่ร้าย

นี่คือตราประทับของการใส่ร้าย สัญญาณของการใส่ร้ายจะคล้ายกับภาพคำสาป ตราแห่งการใส่ร้ายขึ้นอยู่กับเพศของผู้ใส่ร้ายนั้นติดอยู่ที่จักระของศีรษะทางซ้ายหรือขวา

การแพร่กระจายของการแพร่กระจายของผลกระทบนี้ครอบครองพื้นที่ของกระเพาะอาหารตับอ่อนและดังนั้นม้าม (หญิงใส่ร้าย) หรือตับ (ชาย) ทนทุกข์ทรมาน ต่อจากนั้นการละเมิดเหล่านี้ปรากฏชัดในสังคมของบุคคลนี้เป็นหลัก (ในการทำงานความคิดสร้างสรรค์)

มีความสงสัยต่อบุคคลนี้ พวกเขาพยายามจับเขาโกหก เพื่อนกลายเป็นศัตรู

โรคโลหิตจาง, VSD ความดันโลหิตต่ำ, ความสนใจและความจำบกพร่องอาจปรากฏขึ้น

การใส่ร้ายที่อันตรายที่สุดคือสำหรับเด็กโดยเฉพาะในวัยเด็ก เพราะ... โปรแกรมนี้แปลเป็นโปรแกรมการเน่าเสียอย่างรวดเร็ว (เช่น การเน่าเสียของเด็ก "วัยชราของสุนัข" ซึ่งค่อนข้างหายากเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความชราในเด็ก)

สัญญาณที่เป็นไปได้ของแมวน้ำเวทย์มนตร์, ความเสียหาย - .

วัตถุดิบถูกจัดเตรียมมาโดยเฉพาะสำหรับ
ห้ามคัดลอกหรืออ้างอิง